เครื่องแต่งกายสมัยหมิง 明代的服饰

ปี1368─ปี1644

   image227image226

公元1368年,明朝建国。为重新振兴中国社会,明朝政府采取了上承周汉,下取唐宋的治国方针,对整顿和恢复礼仪极其重视,并根据汉族传统重新规定了服饰制度。在政治、经济、文化技术发展的前提之下,明代的服饰面貌仪态端庄,气度宏美,成为中国近世纪服饰艺术的典范。

ในปี 1368 ชาวจีนได้สถาปนาราชวงศ์หมิงขึ้น และเพื่อที่จะฟื้นฟูสังคมจีนให้รุ่งเรืองอีกครั้ง   รัฐบาลหมิงจึงเลือกใช้ขนบธรรมเนียมและเครื่องแต่งกายสำหรับราชสำนักแบบโจวและฮั่น  และระบบการปกครองประเทศแบบถังและซ่ง     ทั้งให้ความสำคัญกับการแก้ไขฟื้นฟูจารีตประเพณีเดิม และฟื้นฟูระบบการแต่งกายที่สืบทอดกันมาของชนชาติฮั่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง   ภายใต้การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ การพัฒนาทางเทคนิคและวัฒนธรรมนั้น ทำให้เครื่องแต่งกายในยุคสมัยหมิงมีความสง่าและงดงาม ผ่าเผย กลายมาเป็นรูปแบบของศิลปะการแต่งกายของจีนยุคใกล้นี้

image228

戴凤冠的明代贵妃(明人《朱夫人像》)

 

 

皇帝服饰

    明代皇帝的日常服装是龙袍,上面绣着龙纹、翟纹和十二章纹,一般以黄色纱罗制成,配金冠。皇帝礼服则仍保持上衣下裳的古制,由玄衣、纁裳、白罗大带、黄蔽膝、素纱中单、赤舄等组成。玄衣肩部织日、月、龙纹,背部织星辰、山纹,袖部织火、华虫、宗彝纹,领、袖口、衣襟侧边、裾都是本色。纁裳织藻、粉米、黻、黼纹。

ฉลองพระองค์

ฉลองพระองค์ของพระจักรพรรดิที่สวมใส่ประจำวันคือชุดมังกร   ด้านบนปักเป็นลายมังกร  ลายนกกระเรียนและสิบสองลายมงคล  ซึ่งปกติแล้วถักทอมาจากด้ายสีเหลือง   เสื้อลายมังกรจะสวมคู่กับพระสุวรรณมงกุฎ (หมวกทองคำ)    ชุดพระราชพิธีของพระจักรพรรดิก็ยังคงเป็นเสื้อผ้าและกระโปรงตามแบบโบราณราชประเพณี  ประกอบด้วยชุดพิธีการ(สีดำ)  กระโปรงสีแดงเข้ม  เข็มขัดสีขาว  แถบผ้าเหลืองที่ใช้แขวนที่เอว  เสื้อชั้นใน และฉลองพระบาทสีแดง     ชุดพิธีการ(เสื้อคลุมสีดำ)ปักลาย สุริยัน จันทราและมังกรที่หัวไหล่  ด้านหลังเป็นกลุ่มดาว ภูเขา  แขนเสื้อเป็นลายเปลวไฟ  ลายไก่ฟ้า  ลายจอกบูชา   บริเวณคอเสื้อ ปลายแขนเสื้อและสาบเสื้อ เป็นสีพื้น   ที่กระโปรงแดงมีกอสาหร่าย  เมล็ดข้าว รูปคันธนูสองคัน และรูปขวาน

 image229 image230

image231

 金冠(北京定陵出土实物)

image232

戴乌纱折上巾、穿盘领、窄袖、绣龙袍的皇帝(南薰殿旧藏《历代帝王像》)

image233

中单(参考《中东宫冠服》绘制)

image234

蔽膝(参考《中东宫冠服》绘制)

龙袍十二章纹包括:日、月、星辰、山、龙、华虫、宗彝、藻、火、粉米、黼、黻。十二章纹发展历经数千年,每一章纹饰都有取义,、星辰代表三光照耀,象征着帝王皇恩浩荡,普照四方。,代表着稳重性格,象征帝王能治理四方水土。,是一种神兽,变化多端,象征帝王们善于审时度势地处理国家大事和
对人民的教诲。

华虫,通常为一只雉鸡,象征王者要“文采昭著”。

宗彝,是古代祭祀的一种器物,通常是一对,绣虎纹和譐纹,象征帝王
忠、孝的美德。

,则象征皇帝的品行冰清玉洁。

,象征帝王处理政务光明磊落,火炎向上也有率士群黎向归上命之意。

粉米,就是白米,象征着皇帝给养着人民,安邦治国,重视农桑。

,为斧头形状,象征皇帝做事干练果敢。

黻,为两个己字相背,代表着帝王能明辨是非,知错就改的美德。 

 

ขออนูญาตินำบทความของคุณกฤชวรรธน์ โล่ห์วัชรินทร์ ที่อธิบายเรื่องสัญลักษณื 12 ประการไว้มาให้อ่านเพิ่มเติมกันครับ© 2009-2010 กฤชวรรธน์ โล่ห์วัชรินทร์

สงวนลิขสิทธิ์สำหรับวัตถุประสงค์ทางการค้า
http://www.wiraja.com/?p=340สัญลักษณ์12 ประการที่ปรากฏในเสื้อคุลมมังกรประกอบไปด้วยดวงอาทิตย์ดวงจันทร์กลุ่มดาวภูเขามังกรไก่ฟ้า จอกบูชาสาหร่ายเมล็ดข้าวเปลวไฟขวานและอักษรฝูฉลองพระองค์ของจักรพรรดิในแต่ละราชวงศ์จะปรากฏสัญลักษณ์เหล่านี้เสมอแต่ในลักษณะและตำแหน่งแตกต่างกันไปไม่มากก็น้อยอีกทั้งความหมายของสัญลักษณ์ก็มักแปรผันไปตามกาลเวลาด้วยเช่นกันดังมีความหมายและรายละเอียดต่อไปนี้สุริยัน () เป็นพลังด้านสว่างหรือหยาง (阳) ถือเป็นบ่อเกิดของสรรพชีวิตสัญลักษณ์นี้หมายถึงอาณัติสวรรค์หรือความรู้แจ้งขององค์จักรพรรดิโดยมากลายปักสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์มักเป็นวงกลมสีแดงภายในวงกลมปรากฏรูปกาหรือนกสามขา (三足鸟) ตำนานกล่าวว่าเดิมทีมีกาสามขาอยู่สิบตัวโดยทั้งสิบเป็นลูกของเทพีซีเหอ (羲和) มีถิ่นอาศัยอยู่ในดวงอาทิตย์สิบดวงโดยเกาะอยู่บนต้นหม่อนในทะเลตะวันออกมีนิสัยชอบบินลงมากินหญ้าอมฤตบนโลกมนุษย์ในแต่ละวันกาตัวหนึ่งจะทำหน้าที่โคจรรอบโลกเพื่อให้แสงสว่างแก่มวลมนุษย์สลับกันไปเรื่อยๆมีอยู่ครั้งหนึ่งกาทั้งสิบตัวบินลงมายังโลกพร้อมกันสร้างความเดือดร้อนแสนสาหัสแก่มวลมนุษย์เป็นอย่างยิ่งวีรบุรุษโฮ่วยี่ (后羿) จึงเอาธนูยิงกาเก้าตัวหล่นลงจากท้องฟ้าทำให้เหลือกาสามขาตัวเดียวหรือดวงอาทิตย์ดวงเดียวมาจนทุกวันนี้จันทรา() เป็นพลังด้านมืดหรือยิน (阴) และเป็นสัญลักษณ์ของสรวงสวรรค์บนฉลองพระองค์ของจักรพรรดิสัญลักษณ์ดวงจันทร์มักปรากฏเป็นรูปวงกลมพื้นสีขาวฟ้าหรือเขียวอ่อนภายในมีกระต่ายตัวหนึ่งกำลังตำยาอายุวัฒนะตำนานกล่าวว่ากระต่ายตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของฉางเอ๋อ (嫦娥) เทพีแห่งดวงจันทร์นอกจากกระต่ายแล้วสัญลักษณ์ของดวงจันทร์ยังปรากฏว่าภายในวงกลมเป็นรูปกบด้วยซึ่งกบแทนความหมายของการปัดเป่าโรคภัยและความเจริญรุ่งเรืองกลุ่มดาว (星辰) เป็นสัญลักษณ์ของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลหมายถึงเมตตาธรรมอันไม่มีขอบเขตสิ้นสุดของจักรพรรดิสัญลักษณ์นี้มักปรากฏเป็นวงกลมขนาดเล็กสามวงวางทำมุมเป็นรูปสามเหลี่ยมโดยมีเส้นโยงวงกลมแต่ละวงไว้ด้วยกันดาวทั้งสามดวงนี้คือส่วนด้ามของกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ ( Big Dipper หรือ 北斗七星 ) ซึ่งก็คือส่วนหางของกลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) ในแผนที่ดาวของชาวตะวันตกนั่นเองโดยดาวสามดวงนี้มีความสำคัญในการกำหนดฤดูกาลมาตั้งแต่ยุคหินใหม่ (Neolithic) เมื่อนำมาเป็นสัญลักษณ์โดยทั่วไปจึงหมายถึงความสามารถในการพยากรณ์หรือการหยั่งรู้ฟ้าดินด้วยภูเขา () เป็นสัญลักษณ์ของโลกหมายถึงความชอบธรรมในการปกครองผืนดินผืนน้ำขององค์จักรพรรดิด้วยความที่ภูเขาตั้งตระหง่านสูงชันยิ่งใหญ่และหนักแน่นสัญลักษณ์นี้จึงยังสื่อถึงการปกครองอันมั่นคงและมีเสถียรภาพทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุดินอันเป็นหนึ่งในห้าธาตุสำคัญของจีนด้วย

มังกร () เป็นสัตว์ในตำนานที่มีพลังอำนาจและความยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาสรรพสัตว์ทั้งมวลรูปมังกรที่ปรากฏบนฉลองพระองค์ของจักรพรรดิเป็นมังกรห้าเล็บซึ่งสงวนไว้เฉพาะองค์จักรพรรดิเท่านั้นมีความหมายถึงพระราชอำนาจและฐานันดรศักดิ์นอกจากนั้นมังกรยังเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำบนบกและบนฟ้าสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างไปตามสภาพแวดล้อมทั้งยังควบคุมฟ้าฝนได้อีกด้วยจึงสื่อถึงพระราชอำนาจที่แผ่ครอบคลุมไปทุกทิศานุทิศความสามารถในการปรับตัวและอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของไพร่ฟ้าประราชราษฎร์ตามลำดับ

ไก่ฟ้า (华虫) เป็นสัตว์ในตระกูลหงส์ (凤) ที่มีสีสันงดงามแพรวพรายสัญลักษณ์นี้แทนพระปรีชาในทาง
บุ๋นและความละเอียดอ่อนในทางภาษาและวรรณคดีของจักรพรรดิหมายถึงจักรพรรดิจะต้องรับฟังเสียงเรียกร้องของพสกนิกรอย่างตั้งใจจึงจะสามารถครองใจประชาชนได้มังกรกับไก่ฟ้าเป็นสัตว์สำคัญในบรรดาสัตว์ทั้งมวลเมื่อปรากฏร่วมกันจึงนับเป็นตัวแทนของสรรพชีวิตทั้งหลายที่อยู่ใต้พระราชอำนาจ

จอกบูชา (宗彝) เป็นเครื่องบูชาในพิธีบวงสรวงบรรพบุรุษสัญลักษณ์นี้จึงหมายถึงคุณธรรมของจักรพรรดิในการเคารพเทิดทูนเหล่าบรรพชนลายปักสัญลักษณ์จอกบูชาจะปรากฏเป็น2 จอกจอกหนึ่งเป็นรูปเสือหรือสิงโตหมายถึงความแข็งแรงอีกจอกหนึ่งเป็นรูปลิงหมายถึงความฉลาดว่องไวเมื่อพิจารณาโดยรวมจึงหมายถึงความแกร่งกล้าในการปกป้องอาณาประชาราษฎร์และสติปัญญาในการปกครองบ้านเมืองขององค์จักรพรรดินอกจากนั้นจอกบูชายังเป็นสัญลักษณ์ของธาตุโลหะด้วย

สาหร่าย () เป็นพืชน้ำที่สะอาดจึงเป็นสัญลักษณ์หมายถึงความบริสุทธิ์ไร้มลทินไม่มีราคีตีความได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงความชอบธรรมขององค์จักรพรรดิในฐานะผู้นำที่ไม่มีผู้ใดอาจก้าวล่วงหรือปฏิเสธได้สาหร่ายยังเป็นสัญลักษณ์ของธาตุน้ำด้วย

เมล็ดข้าว (粉米) เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่งแสดงให้เห็นว่าจักรพรรดิเป็นหลักยึดของมวลหมู่ประชาชนเหตุเพราะจักรพรรดิมีความสามารถในการสร้างความกินดีอยู่ดีความเจริญรุ่งเรืองและความผาสุกให้เกิดแก่ราษฎรในจักรวรรดิเมล็ดข้าวยังถือเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไม้ด้วย

เปลวไฟ () หมายถึงอัจฉริยภาพอันสว่างสุกใสขององค์จักรพรรดิในอันที่จะนำพาจักรวรรดิและอาณาประชาราษฎร์ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเปลวไฟยังเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไฟด้วย

ขวาน () เป็นสัญลักษณ์แทนพระเดชานุภาพความเด็ดขาดและการลงโทษซึ่งล้วนเป็นหลักการสำคัญขององค์จักรพรรดิในการบริหารราชการแผ่นดินในยามขับขันเกิดศึกสงครามเกิดจลาจลหรือเกิดทุพภิกขภัย

อักษรฝู () สัญลักษณ์นี้เป็นรูปธนูสองคันหันหลังชนกันโดยคันหนึ่งมักมีสีดำส่วนอีกคันมักมีสีขาวหรือมักใช้สีมืดกับสีสว่างประกอบกันหมายถึงความสามารถในการจำแนกดีชั่วถูกผิดซึ่งก็คือพระราชอำนาจในการตัดสินขององค์จักรพรรดินั่นเอง

ดังกล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่าสัญลักษณ์12 ประการนั้นแสดงให้เห็นฐานันดรศักดิ์และอำนาจหน้าที่ของจักรพรรดิจีนทุกประการนับตั้งแต่การได้รับอาณัติสวรรค์ให้มีอำนาจเด็ดขาดยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามไปจนถึงบุคลิกอันอ่อนโยนและเอาใจใส่ไพร่ฟ้าประชาชนซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติอันพึงประสงค์ของนักปกครองที่ดีแทบทั้งสิ้น

image235

皇后服饰

皇后在受册、朝会时穿礼服。礼服由凤冠、霞帔、翟衣、背子和大袖衫组成。凤冠上饰有龙凤和珠宝流苏,配玉革带,青色加金饰的袜、舄。皇后的常服是穿金绣龙纹的红色大袖衫、霞帔、红色长裙、红背子,配凤冠。

ฉลองพระองค์พระมเหสี

พระมเหสีจะสวมชุดพิธีในโอกาสที่รับพระราชโองการ หรือโอกาสสำคัญๆต่างๆ   ชุดพิธีประกอบด้วย มงกุฎหงส์ แถบคล้องคอ (มีหน้าที่คล้ายสายสะพายบ่าในปัจจุบัน)   ชุดตี๋ (เสื้อคลุมข้างใน)  แถบผ้า(คล้ายผ้ากันเปื้อน) และเสื้อแขนใหญ่สำหรับสวมด้านนอก     ด้านบนของมงกุฎหงส์มีมังกรหงส์และพู่ไข่มุก เข็มขัดประดับหยก ถุงน่องสีเขียวเข้มเหลือบทอง  ฉลองพระบาท   ฉลองระองค์ที่พระมเหสีทรงสวมในเวลาปกติคือเสื้อแขนใหญ่ที่ปักลายมังกรทอง  แถบคล้องคอ กระโปรงแดง  แถบผ้า(คล้ายผ้ากันเปื้อน)สีแดง  และมงกุฎหงส์

 image237image236

image238

穿耳、带耳环的明代皇后

(南薰殿旧藏《历代帝后》)

 

凤冠

明代凤冠以金、银、铜等金属丝网为胎,衬以罗纱,并挂有珠宝流苏,它有两种基本形式:一种是后妃所戴的礼冠,上缀点翠凤凰、龙等装饰,龙凤嘴中常衔着珠花,下垂至肩;另一种是普通命妇所戴的彩冠,上面不缀龙凤,仅缀珠翟、花钗等,但习惯上也称它为凤冠。

มงกุฎหงส์

มงกุฎหงส์ในสมัยราชวงศ์หมิงมีโครงซึ่งทำมาจากตาข่ายที่ถักจากทองคำ  เงิน ทองแดง เป็นต้น    บุภายในด้ายผ้าใยไหม  ประดับพูห้อยและอัญมณี  มีรูปร่างพื้นฐาน ๒ แบบ คือ   รูปแบบแรก  เป็นมงกุฎพิธีสำหรับพระมเหสี พระวรราชเทวี และพระราชเทวีลำดับชั้นต่างๆ  ด้านบนประดับหงส์ มังกร และเครื่องประดับอื่นๆที่ทำมาจากขนนกกระเต็น  บริเวณปากของมังกร และหงส์มักประดับดอกไม้เพชร ดอกไม้พลอย  ห้อยถึงบ่า     รูปแบบที่สองมีไว้สำหรับสตรีสูงศักดิ์และเหล่าภริยาขุนนางชั้นต่างๆ  ส่วนบนของมงกุฎไม่มีหงส์และมังกร  แม้ว่าประดับเพียงขนนกป่าหรือกิ๊บดอกไม้  แต่ก็ถูกเรียกว่ามงกุฏหงส์ด้วยเหมือนกัน

 image239

 龙凤珠翠冠

(北京定陵出土实物)

image240

凤冠

(湖北蕲春蕲州明刘娘井墓出土)

 

 image241

霞帔

霞帔是一种帔子,因为被人们比喻成美丽的彩霞,所以有了“霞帔”之称。它的形状象两条彩练,绕过头颈,披挂在胸前,下垂一颗金玉坠子。霞帔的纹样随品级的差别而有不同的装饰:一品、二品命妇霞帔,用蹙金绣云霞翟鸟纹。三品、四品霞帔,绣云霞孔雀纹。五品霞帔,绣云霞鸳鸯纹等。

แพรแถบคล้องคอ

แพรแถบคล้องคอเสียเพ่ยเป็นแพรแถบคล้องคอชนิดหนึ่ง  เนื่องจากการที่ถูกคนเปรียบเปรยว่างดงามราวกับเมฆสีชมพูบนท้องฟ้า ดังนั้นจึงเรียกสายแถบคล้องคอชนิดนี้ว่า เสียเพ่ย หรือ แพรแถบเมฆชมพู  มีปลายสองด้าน  พันจากคอลงมา พาดยาวผ่านอก  ปลายทั้งสองห้อยเป็นจี้หยกและทอง   ลวดลายของแพรแถบนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งและระดับชั้น   ภริยาของขุนนางข้าราชการชั้นหนึ่ง และชั้นสอง ใช้ดิ้นทองปักเป็นลายลายเมฆและไก่ฟ้าบนผ้าสีแดง  ระดับสามและระดับสี่ เป็นลายเมฆและนกยูง  ระดับห้า  ลายเมฆและลายเป็ดแมนดารินเป็นต้น

 image242

戴凤冠、穿霞帔的明朝皇后

(南薰殿旧藏)

《历代帝后像》

 

 image243

明《中东宫冠服》

所绘大衫凤纹霞帔正面/背面

 

 

乌纱帽

乌纱帽是用乌纱制成的圆顶官帽。它的式样和晚唐五代的幞头基本相同,以漆纱做成,两边展角,角长40厘米左右。皇帝日常所戴的乌纱折上巾,其样式与乌纱帽基本相同,只是将左右二角向上折,竖于纱帽之后而已。

หมวกวูซา

หมวกวูซาหรือหมวกแพรสีนิลนั้น ใช้ผ้าแพรสีนิลประดิษฐ์เป็นหมวกยอดกลม  มีลักษณะคล้ายกับหมวกฝู (โพกหัว) ในตอนปลายสมัยถังและสมัยห้าราชวงศ์  แต่หมวกฝูช่วงถังทำจากผ้าที่ย้อมสีเคลือบด้านนอก  มีปลายห้อยสองข้างยาวประมาณ ๔๐ เซนติเมตร     หมวกที่พระจักรพรรดิสวมในวันทั่วๆไปนั้นมีลักษณะคล้ายกับหมวกวูซาทั่วไป แต่ทว่าปลายทั้งสองข้างจะเป็นลักษณะยกขึ้น และถูกสร้างหลังจากมีการประดิษฐ์หมวกวูซา

 image244

image245

乌纱帽

(上海肇家浜路潘允徵墓出土实物)

 

 

文武官服

明代文武官员一律穿盘领右衽、袖宽三尺的袍衫,在重要礼仪场合,不论职位高低,都戴梁冠,穿赤罗衣裳,以冠上梁数及所佩绶带分别等差。在日常服装中,都带乌纱帽或幞头,并在前胸和后背缀以一方补子,文官用禽、武官用兽作装饰。官服的颜色、质地、式样、花纹图案以及尺寸因级别而异,都有明确的规定。

เครื่องแต่งกายของข้าราชการพลเรือนและกลาโหม

เครื่องแต่งกายข้าราชการพลเรือนและกลาโหมในสมัยหมิงนี้ เป็นเสื้อคอกลมที่สาบเสื้อพับไปทางขวา แขนกว้าง ๓ ฟุต  ในงานพระราชพิธีที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งต่ำหรือสูงต่างจะสวมหมวกกวนเหลียง  สวมเสื้อผ้าสีชาด  โดยจะใช้ จำนวนริ้วบนหมวกและสายริบบิ้นบ่งบอกถึงลำดับขึ้น    เครื่องแต่งกายในวันทั่วไปก็จะสวมหมวกวูซาหรือไม่ก็หมวกฝู    โดยมีแผ่นภาพสัตว์มงคลที่บอกดำดับขั้นแปะไว้ด้านหลังและด้านหน้าบริเวณหน้าอก  ที่เรียกว่า ปู่จึ  ข้าราขการฝ่ายบุ๋นใช้สัตว์จำพวกนก  ฝ่ายบู๊ใช้สัตว์จตุรบาท    เสื้อผ้าของข้าราชการนั้น  ทั้งสีสัน  เนื้อผ้า รูปแบบ ลวดลายต่างๆนั้น มีความแตกต่างกันไปตามระดับซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ที่มีความชัดเจน

 image246

戴乌纱幞头、穿织金蟒袍的官吏

(明人《李贞写真像》)

image247

戴貂蝉笼巾、佩方心曲领、穿朝服的官吏

(明人《范仲淹写真像》)

 image248

戴展角幞头、穿织金蟒袍、系白玉腰带的官吏

(明人《王鏊写真像》)

 

 

补 子

明代官服上最有特色的装饰就是补子。所谓补子,就是在官服的胸前和后背补上一块表示职别和官阶的标志性图案,补子一般长34厘米,宽36.5厘米,上面织有禽兽两种图案:文官一品用仙鹤,二品用锦鸡,三品用孔雀,四品用云雁,五品用白鹇,六品用鹭鸶,七品用鸂鶒,八品用黄鹂,九品用鹌鹑,杂职用练鹊;武官一品二品用狮子,三品四品用虎豹,五品用熊罴,六品七品用彪,八品用犀牛,九品用海马。

ชุดลายสัตว์มงคล   补 子 

ลักษณะเด่นที่สุดของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายขุนนางข้าราชสำนักหมิงก็คือ  ปู่จึ (ลายภาพสัตว์มงคล)    ที่เรียกว่าปู่จึ ก็เนื่องมาจาก เป็นภาพปักลายทีปักไว้ด้านหน้าบริเวณอกและด้านหลังเพื่อใช้แสดงและบ่งบอกถึงลำดับชั้นของตำแหน่ง ความยาวของปู่จึคือ ๓๔ เซนติเมตร  และกว้าง ๓๖.๕ เซนติเมตร  ลายที่ปักก็มี ๒ ประเภทด้วยกัน

ขุนนางบุ๋นระดับ ๑ ปักเป็นนกกระเรียนขุนนางบุ๋นระดับ๒ ปักเป็นไก่ฟ้าสีทองขุนนางบุ๋นระดับ๓ ปักเป็นนกยูงขุนนางบุ๋นระดับ๔ ปักเป็นห่านป่า

ขุนนางบุ๋นระดับ๕ ปักเป็นไก่ฟ้าสีเงิน

ขุนนางบุ๋นระดับ๖ ปักเป็นนกกระยาง

ขุนนางบุ๋นระดับ๗ ปักเป็นนกเป็ดน้ำ

ขุนนางบุ๋นระดับ๘ ปักเป็นนกขมิ้น

ขุนนางบุ๋นระดับ๙ ปักเป็นนกกระทา

ขุนนางบู้ระดับ ๑ ปักเป็นสิงโตขุนนางบู้ระดับ๒ ปักเป็นสิงโตขุนนางบู้ระดับ๓ ปักเป็นเสือดาวขุนนางบู้ระดับ๔ ปักเป็นเสือดาว

ขุนนางบู้ระดับ๕ ปักเป็นหมีสีน้ำตาล

ขุนนางบู้ระดับ๖ ปักเป็นเสือดำ

ขุนนางบู้ระดับ๗ ปักเป็นเสือดำ

ขุนนางบู้ระดับ๘ ปักเป็นแรด

ขุนนางบู้ระดับ๙ ปักเป็นม้าที่อยู่บนน้ำ

 image249

明万历灯笼景刺绣圆补,私人收藏

 

image250

穿斗牛服的明邢玠夫妇像

 

 image251

明早期六品文官鹭鸶纹缂丝方补

 image252

明中期织锦斗牛纹补,私人收藏

image253

明初编绣龙纹方补,私人收藏

补子

盘领衣

盘领衣是继承唐宋以来的圆领袍衫发展而来的。明代官员服装大多为高圆领、缺胯的样式,官服的衣袖多宽袖或大袖,有的在衣裙两侧有插摆;平民的衣服无插摆,袖为窄袖,但60岁以上老者可以穿大袖,袖长也可适当加长至出手挽回至离肘10厘米处。

เสื้อคอกลม

เสื้อคอกลมนี้เป็นชุดคลุมคอกลมที่สืบทอดและพัฒนามาจากชุดในสมัยถังและซ่ง  รูปแบบเครื่องแต่งกายของขุนนางหมิงส่วนใหญ่เป็นคอกลมกว้าง แหวกข้าง   แขนเสื้อกว้างหรือมีขนาดใหญ่ ซึ่งบ้างก็มีตุ้งติ้งห้อยอยู่ข้างลำตัว แต่ราษฎรทั่วไปจะไม่ห้อยตุ้งติ้ง  และแขนเสื้อจะแคบ  สำหรับผู้สูงอายุที่อายุเกิน ๖๐ ปีขึ้นไปอาจสวมเสื้อแขนกว้างได้    แขนเสื้อยาวนั้นอาจยาวกว่ามือมาอีก ๑๐ เซนติเมตรเลยทีเดียว

 image255

穿公服的官吏

(明人《江舜夫像》)

 image256

戴乌纱帽、穿盘领补服的明朝官吏

(明人《沈度写真像》)

 

程子衣

这种形式与元代以来的辫线袄近似,明朝起初称为“曳撒”,是君臣外出乘马时所穿的袍式,后来明代士大夫日常也穿这种形式的服装,称其为“程子衣”。它的特点是大襟、右衽、斜领、袖子宽松,前襟的腰部有接缝,下面打满褶裥。

เครื่องแต่งกายนักวิชาการ นักศึกษา

เสื้อผ้าลักษณะนี้มาจากชุดเปี้ยนเสี้ยนอ่าวจิ้นซื่อของชาวหยวน  ในช่วงต้นราชวงศ์หมิงเรียกว่า เย่ซา เป็นฉลองพระองค์สำหรับ พระมหากษัตริย์ที่ใช้ทรงเวลาทรงม้า   ภายหลังเหล่าบัณฑิตก็ได้นำมาสวมเป็นชุดในวันปกติทั่วไป   แล้วเรียกว่า  เสื้อเฉิงจึ  จุดเด่นของมันคือมี ปกเสื้อกว้าง  สาบเสื้อพับไปทางขวา  คอเสื้อเฉียง (คอวี)  แขนเสื้อหลวม  ปกเสื้อด้านหน้ามีตะเข็บ  ด้านล่างเป็นจีบ

 

 

士人服装

明代的读书人一般都穿蓝色或黑色袍子,四周镶有宽边,也有穿浅色衫子的,衣长一般到脚面,袖子比较宽肥,袖长也一律过手。通常会与儒巾和四方平定巾相配,风格清静儒雅。

ชุดบัณฑิต

บัณฑิตยุคหมิงส่วนใหญ่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินหรือสีดำ  ทุกด้านมีขอบกว้าง    และมีบ้างที่สวมเป็นชุดสีอ่อน  ส่วนมากมีความยาวถึงเท้า  แขนเสื้อค่อนข้างใหญ่และยาวเลยข้อมือไป  มักสวมคู่กับหมวกผ้าหรูจินหรือไม่ก็เป็นหมวกแข็งสี่เหลี่ยม  แลสุขุมและเยือกเย็น

 image257

戴儒巾、穿大袖衫的士人(明人肖像画)

 

 

四方平定巾

四方平定巾是以黑色纱罗制成的便帽,因其造型四角都呈方形,所以也叫“四角方巾”,明代以此来寓意“政治安定”。这种巾帽多为官员和读书人所戴,平民百姓戴的比较少,服装一般是配染色蓝领衣。

หมวกแข็งสี่เหลี่ยม

หมวกแข็งสี่เหลี่ยมเป็นหมวกที่ทำมาจากผ้าหลัวซาสีดำ  และเนื่องจากรูปร่างลักษณะที่มีสี่เหลี่ยม  ดังนั้นจึงเรียกว่า   หมวกผ้าสี่ทิศ      และในสมัยหมิงนี้ได้ยึดหลัก  “การเมืองมีเสถียรภาพ”    หมวกประเภทนี้เป็นหมวกที่เหล่าขุนนางและบัณฑิตใช้สวมใส่  สามัญชนทั่วไปนั้นน้อยมากที่จะสวมหมวกชนิดนี้  และมักสวมเสื้อที่ย้อมสีคราม

image258

戴儒巾或四方平定巾、

穿衫子的士人

(《娄东十老图》局部)

 image259

戴儒巾、穿衫子的士人

 

 

 

比甲

比甲的前身是隋唐时期的半臂,到了明代它演变成一种无领无袖的对襟式半长上衣,并成为青年女子日常穿着的外衣。后来到了清代又缩短衣身,称为坎肩、背心、马甲。

เสื้อกั๊กยาวปี๋เจี่ย

เสื้อกั๊กยาวปี๋เจี่ยนี้ ก็คือเสื้อกั๊กปั้นปี้ในยุคสุยถัง  พอมาถึงสมัยหมิง มันก็ถูกปรับปรุงให้กลายเป็นเสื้อกั๊กที่ไม่มีแขนและไม่มีคอเสื้อ สาบเสื้อตรง ยาวถึงเข่า  ซึ่งกลายมาเป็นเสื้อนอกที่ใส่ประจำวันของบรรดาสาวรุ่น  ภายหลังในสมัยชิงก็หดสั้นลง และถูกเรียกว่า  ข่านเจียน  เป้ยซิน หรือ หมาเจี่ย

image260

穿比甲的妇女(《燕寝怡情》图册

背子

明代的背子多为合领或直领对襟的,衣长与裙齐,左右腋下开禊,衣襟敞开,两边不用钮扣,有时以绳带系连,是女子的日常服装。一般情况下,贵族女子穿合领对襟大袖的款式,而平民女子则穿直领对襟小袖的款式。

ชุดเป้ยจึ

ชุดเป้ยจึในสมัยหมิง ส่วนมากมีปกเสื้อรวบและปกเสื้อแบบตรง  ยาวและรัดรูป  ใต้วงแขนทั้ง ๒ ข้างมีการเย็บให้เกิดริ้วลอนหรือแขนจ้ำ  ปลายกระโปรงบานออก  สายเสื้อทั้งสองด้านไม่ต้องมีกระดุม  บางครั้งใช้เชือกมัด    เป็นเสื้อที่หญิงสาวสวมใส่ในชีวิตประจำวัน    ในเวลาปกติทั่วไป หญิงสูงศักดิ์มักสวมชุดเป้ยจึปกเสื้อรวบที่มือแขนเสื้อใหญ่  แต่หญิงชาวบ้านจะสวมเป้ยจึปกและสาบเสื้อตรงและแขนเสื้อเล็ก

 image261

穿宽袖背子的贵妇

image262

穿窄袖背子的贵妇及侍女(唐寅《簪花仕女图》)

image263 image264

 

水田衣

中国诗句中有“裁衣学水田”的描述,女子水田衣的浪漫和新奇从中可见一斑。水田衣是用许许多多零星的织锦缎料拼合而成的。这些缎料色彩不同,图案不同,大小不同,形状也各异,所以拼制起来的服装色彩斑斓,形如水田,具有一种极其特殊的装饰效果,受到明代女子的普遍喜爱。

ชุดผ้าตัดปะลายตารางนาข้าว

คำโบราณจีนกล่าวไว้ว่า  “เย็บเสื้อผ้าต้องเรียนรู้ปะผ้าลายตารางนาข้าว”   ซึ่งเป็นความแปลกใหม่และความโรแมนติกของเสื้อผ้าแบบตัดปะในหมู่หญิงสาว  เสื้อผ้าตัดปะลายตารางนาข้าวพวกนี้ตัดเย็บขึ้นมาจากเศษผ้าหลายๆชิ้น     สีสัน ลวดลาย ขนาดของเศษผ้าเหล่านี้แตกต่างกัน  รูปร่างก็แตกต่างกันไป  ดังนั้นเสื้อผ้าที่ตัดเย็บขึ้นมาจึงมีสีสันที่สดใสและแปลกใหม่ ลักษณะคล้ายนาข้าว  มีลักษณะที่โดดเด่นเป็นพิเศษ  ซึ่งได้รับความนิยมชมชอบจากบรรดาสาวยุคหมิงเป็นอย่างมาก

 image266 image267  image265

 

裙子

明代女子穿裙子比较普遍。裙子的颜色,开始流行浅淡的色彩,以素白居多,虽然上面有纹饰,但并不明显,即使施绣,也只是在裙摆处绣以花边,作为压脚。裙幅开始采用六幅,这也是遵循古训“裙拖六幅湘江水”。后来裙幅采用八幅,腰间细褶数十,行动辄如水纹。裙上的纹样,也更讲究。据说有种浅色画裙,名叫“月华裙”,裙幅共有十幅,腰间每褶各用一色,轻描淡绘,色彩非常淡雅,风动色如月华,因此得名。此外,还有的裙子用绸缎裁剪成大小规则的条子,每条绣以花鸟图纹,另在两畔镶以金线,称“凤尾裙”。更有以整缎折以细缱,做成“百褶裙”的。

กระโปรง

การสวมกระโปรงของหญิงสาวในสมัยหมิงค่อนข้างเป็นที่แพร่หลาย     สีสันของกระโปรง   ในระยะเริ่มแรก สีที่นิยมคือสีอ่อนเบาๆ และใช้สีขาวพื้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแม้ว่าจะมีลวดลายแต่ก็มิได้ดูโดดเด่นชัดเจนมากนัก  และการปักลาย ก็พียงแค่ปักเป็นลูกไม้ที่ชายกระโปรงเท่านั้น    ในตอนต้น จีบกระโปรงมีเพียง ๖ จีบ   ตามคำกล่าวที่ว่า “ กระโปรงหกจีบลายแม่น้ำเซียง”    ภายหลังก็ได้เปลี่ยนมาใช้ ๘ จีบ เอวรัดรูปมีจีบนับสิบจีบ  มักเป็นลายน้ำไหล    ลวดลายบนกระโปรงนั้นก็ยิ่งให้ความสำคัญมากเช่นกัน    กล่าวกันว่า  มีกระโปรงสีอ่อนอยู่รูปแบบหนึ่ง  เรียกว่า  กระโปรงเยว่ฮว๋า(จันทราทรงกลด)  ซึ่งมีจีบกระโปรงถึง ๑๐ จีบ  จีบที่ส่วนเอวก็มีสีสันที่แตกต่างกันไป มักมีสีอ่อนโยนอันแลหรูหราเป็นอย่างยิ่ง  และเนื่องจากยามกระโปรงโบกสะบัดเวลาเดินจะมีสีสันซึ่งคล้ายกับพระจันทร์ที่กำลังทรงกลด  จึงได้ชื่อว่า กระโปรงจันทราทรงกลด        นอกจากนั้น  ยังมีกระโปรงอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งตัดเย็บมาจากแถบผ้าซาตินที่มีขนาดไม่เท่ากัน  แต่ละแถบผ้าปักเป็นลายบุปผาชาติและปักษา  และขลิบด้านข้างด้วยดิ้นทอง  เรียกกระโปรงชนิดนี้  กระโปรงหางหงส์    และมีกระโปรงอีกประเภทหนึ่ง ใช้ผ้าซาตินทั้งผืนพับเป็นจีบๆ  เรียกว่า กระโปรงร้อยริ้ว

 image268

穿襦裙及腰裙的侍女(费晓楼《仕女精品》)

 image269

穿襦裙的乐女

(传世绘画《汉宫秋》局部)

 image270

凤尾裙(传世实物)

 

 

弓鞋

明代女子不仅沿袭了前代缠足的风俗,而且使之大胜。缠足后所穿的鞋叫做“弓鞋”,这是一种以香樟木制成的高底鞋。木底露在外边的叫“外高底”,有“杏叶”、“莲子”、“荷花”等名称;木底藏在里边的一般叫“里高底”,又称“道士冠”。老年妇女大多穿平底鞋,称为“底而香”。

รองเท้าคันศร

สตรีชาวหมิงมิเพียงแต่ปฏิตามบรรพบุรุษในประเพณีรัดเท้าเท่านั้น  แต่ทว่ายังให้ความสำคัญมากอีกด้วย    รองเท้าที่สวมใส่หลังจากรัดเท้าแล้วเรียกว่า “กงเสย์” หรือ รองเท้าคันศร    รองเท้าชนิดนี้เป็นรองเท้าพื้นสูงที่ประดิษฐ์     พื้นรองเท้าจากไม้หอม  ส้นไม้ที่ยื่นออกมานั้นเรียกว่า  ไว่เกาตี่  หรือ ใบแปะก้วย  หรือ ดอกบัว และอื่นๆอีกหลายชื่อ  และส่วนส้นไม้ที่ซ่อนไว้ภายในเรียกว่า  หลี่เกาตี่  หรือ หมวกนักพรต    ส่วนผู้สูงอายุจะสวมรองเท้าพื้นเรียบ เรียกว่า  ตี่เอ๋อร์เซียง

 image271

穿弓鞋的妇女(山西宾宁寺明《水陆画》局部)

 image272

高底弓鞋

 image273

翘头小脚银鞋

 

女子发饰

明代女子将头髻梳成扁圆形状,并在发髻的顶部,饰以宝石制成的花朵,时称“挑心髻”。后来又将发髻梳高,以金银丝挽结,顶上也有珠翠装点。渐渐地名目越来越多,样式也从扁圆趋于长圆,有“桃尖顶髻”、“鹅胆心髻”等名称,还有模仿汉代“堕马髻”的。除此之外,明代妇女也常用假髻作装饰。这种假髻一般比原来的发髻要高出一半,戴时罩在真髻上,以簪绾住头发。明末,这类发饰的样式更加丰富,有“懒梳头”、“双飞燕”、“到枕松”等各种不同样式,甚至还有成品出售。

เครื่องประดับศีรษะของผู้หญิง

สตรีชาวหมิงจะหวีผมเป็นมวยรูปไข่  มวยเป็นก้อนไว้บนศีรษะ   เครื่องประดับก็เป็นดอกไม้ที่ทำจากอัญมณี เรียกว่า  เทียวซินจี้  ภายหลังก็เริ่มมวยให้ผมสูง ดึงปมด้วยไหมเงินไหมทอง  และประดับมรกต   ซึ่งเครื่องประดับบนศีรษะก็ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ   ทรงผมมวยที่จากเดิมเป็นรูปไข่ก็กลายเป็นทรงรียาว  มีทรงผม  มวยยอดท้อ  มวยตับห่าน  เป็นต้น   และยังมีทรงที่เลียนแบบจากยุคฮั่นคือ  ทรงตกหลังม้า    นอกจากนี้แล้ว  สตรีชาวหมิงยังนิยมใช้ผมปลอมอีกด้วย      วิกผมเหล่านี้จะมีความสูงกว่าผมเดิมครึ่งหนึ่ง    เวลาใส่ก็จะสวมไว้บนผมและติดกิ๊บเพื่อให้อยู่ทรง        ช่วงปลายราชวงศ์หมิง
วิกผมทรงที่ได้รับความนิยมได้แก่  ทรงขี้เกียจหวี (ปล่อยผม)  ทรงอีแอ่นคู่  ทรงหมอนหลวม  เป็นต้น  และถึงขนาดทำไว้ขายกันเลยทีเดียว

 image274

簪珠翠发饰的贵妇及挂玉佩的侍女(陈洪绶《夔龙补衮图》)

 image275

金凤簪(湖北蕲春蕲州明刘娘井墓出土)

 

image276

如意头簪(四川成都营门口明墓出土)

 

头箍

明代在年轻女子中,还有戴头箍的风尚。头箍最初是以棕丝结成网状,罩住头发。以后戴的人渐渐多了,又出现了纱头箍及热罗头箍。头箍的作用,慢慢地也由束发变成了一种装饰,发展到最后,只留下一条窄边,系扎在额头眉上。

ที่คาดผม

ในหมู่สาวน้อยชาวหมิงนั้น  ยังมีแฟชั่นนิยมที่คาดผมอีกด้วย  แรกเริ่มเดิมที  ที่คาดผมทำจากเส้นไหมสีน้ำตาลที่ถักเป็นตาข่าย   สวมไว้บนหัว  ต่อมาผู้ที่ใช้มันก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น  และปรากฏเป็นแถบคาดผมผ้าไหมและผ้าเร่อหลัว    บทบาทของที่คาดผมจากที่แต่เดิมใช้เป็นเพื่อจัดทรงผม ภายหลังได้กลายเป็นเครื่องประดับศีรษะประเภทหนึ่ง   และสุดท้ายพัฒนามาเป็นเพียงแถบแคบๆที่ใช้คาดผมเหนือหน้าผากเท่านั้น

 

 

明光铠

明光铠是中国古代著名的铠甲,它最大的特点就是在前胸和后背的左右各佩有一块圆形护镜,这种护镜在阳光下能闪烁反光,具有明亮的视觉效果,因而有了“明光铠”的得名。除护镜以外,明光铠在肩上还装有兽头形状的护膊,它既具有保护作用,又能显示出将士勇猛威武的气势。

เสื้อเกราะหมิงกวง (ชุดเกราะประกายแสง)

ชุดเกราะหมิงกวงเป็นชุดเกราะที่มีชื่อเสียงของจีนยุคโบราณ  ลักษณะที่เด่นที่สุดของมันก็คือมีแผ่นกระจกทรงกลมติดอยู่ที่หน้าอกและด้านหลังทั้งซ้ายและขวา    แผ่นกระจกนี้จะสะท้อนแสงเมื่อต้องกับแสงอาทิตย์ จึงทำให้มีแสงกระพริบระยิบระยับ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ได้ชื่อ ว่าเสื้อเกราะประกายแสงนี้มา    นอกจากจะมีการประดับกระจกแล้วนั้น  บริเวณหัวไหล่ของเสื้อเกราะประกายแสงนี้ยังตกแต่งด้วยเกราะไหล่สำหรับป้องกันรูปหัวสัตว์อารักษ์ขาอีกด้วย  ซึ่งช่วยแสดงถึงความแกร่งกล้าสามารถของนายพล

image277

 胄甲穿戴展示图(根据出土陶俑复原绘制)

 

 

服饰纹样

人们常将几种不同形状的图案配合在一起,或取其寓意,或取其谐音,以此寄托美好的愿望,或抒发自己的感情。这些富有浓厚民族色彩的传统图案被称为“吉祥图案”,在明代的织物上体现得非常充分:如“福从天来”“金玉满堂”“连年有余”“八吉祥”等等。尽管这些图案的形状各不相同,结构也比较复杂,但在一幅画面上,被组织得相当和谐,常在主体纹样中穿插一些云纹、枝叶或飘带,给人以轻松活泼的感觉。

ลวดลายบนเครื่องแต่งกาย

ผู้คนในสมัยนี้จะนำรูปร่างที่แตกต่างกันมาประกอบลายขึ้นเป็นลวดลายเดียวกัน  หรืออาจจะเป็นเรื่องของความหมายหรือการพ้องเสียงกับคำความหมายดี  ซึ่งเป็นการแสดงถึงความปรารถนาความต้องการต่างๆหรืออาจจะเป็นเพียงเพื่อแสดงความรู้สึกของพวกเขา   ลวดลายที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ดั้งเดิมของชนเผ่าจีนพวกนี้ ถูกเรียกว่า “ลวดลายมงคล”  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลวดลายสมัยหมิงซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน    เช่น  “สุขมาจากฟ้า”  “เงินทองเต็มบ้าน”(กิมเง็กมั่วตึ๊ง)  “เหลือกินทั้งปี”  “แปดมงคล”  เป็นต้น   ถึงแม้ว่าลวดลายพวกนี้จะไม่เหมือนกัน  การประกอบลายค่อนข้างซับซ้อน แต่ทว่าพอเวลาไปอยู่บนผืนผ้าแล้วก็กลมกลืนเข้ากันได้เป็นอย่างดี   ลวดลายหลักที่ใช้เป็นโครงก็เช่น ลายเมฆ  ลายใบไม้ ลายสายรุ้งที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา

  image278

明缂丝葫芦纹藏袍(童服)。葫芦纹是明朝年节所穿的服饰纹样,

取福禄吉庆之意,俗称“大吉葫芦”,私人收藏。

 

 image279

北京定陵出土明万历皇帝织金妆花纱柿蒂形过肩龙阑(复制件,北京定陵博物馆藏)

 

 

error: Content is protected !!