เครื่องแต่งกายสมัยสุย ถัง และสมัยห้าราชวงศ์ 隋唐五代的服饰

ปี 581 ถึงปี 960

image123 image122

 

隋朝于公元589年重新统一中国,秦汉时期的服饰制度得到了逐渐的恢复。隋朝将“日月、星辰”等纹饰放回到皇帝的冕服上,从此“肩挑日月,背负星辰”成为后世历代帝王冕服的基本形式。公元618年,唐代建立,它国力强盛、疆域广大、政令统一、对外交流十分频繁、文化艺术空前繁荣,服饰文化因此呈现出自信开放、雍容华贵。

ปีคริสต์ศักราช ๕๘๙ ในยุคราชวงศ์สุยมีการรวมรวมประเทศขึ้นอีกครั้ง   และจึงค่อยๆฟื้นฟูระบบการแต่งกายในสมัยยุคฉินและยุคฮั่นขึ้น ยุคสุยได้นำ “สุริยัน จันทรา ดาราราย” และลวดลายอื่น ๆ กลับมาประดับบนฉลองพระองค์ในพระราชพิธีของพระจักรพรรดิอีกครั้งหนึ่ง  จากตอนนี้ “สุริยันจันทราประทับพาหา (บ่า) ดารารายพร่างพายกลางขนอง (หลัง)”  ก็ได้กลายเป็นพื้นฐานของฉลองพระองค์ในยุคต่อๆมา ค.ศ. ๖๑๘ ได้มีการสถาปนาราชวงศ์ถังซึ่งทำให้ประเทศจีนมีประสิทธิภาพและเจริญรุ่งเรือง  ประเทศมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล  การปกครองเป็นเอกภาพ   มีการติดต่อและแลกเปลี่ยนกับต่างชาติมากมาย   วัฒนธรรมและศิลปะเจริญรุ่งเรืองเป็นประวัติการณ์    วัฒนธรรมการแต่งกายก็แสดงออกได้อย่างไม่อายใคร  โอ่อาหรูหรา

image124 image125

唐代大袖衫

 

半臂仙裙

公元605年至617年间,隋代的女子流行半臂,这是将短袖衣服套在长袖衣服外面的穿法。与半臂相配的是“仙裙”,又称“十二破裙”,是一种下摆很大的长裙。穿戴这种服装外出时,女子要戴纱帽,将面部挡住,这是受西北地区少数民族服饰影响的结果。

ชุดเสื้อเอวสั้นป้านปี้และกระโปรงนางฟ้า

ในช่วงปี ค.ศ. 605-617 สาวๆชาวสุยนิยมสวมป้านปี้ ซึ่งก็คือเสื้อแขนสั้นที่สวมทับเสื้อแขนยาว (คล้ายเสื้อกั๊ก) และสวมกระโปรงที่ใส่คู่กับป้านปี้ เรียกว่า กระโปรงนางฟ้าหรือเรียกอีกอย่างว่า กระโปรงสิบสองจีบ   เป็นกระโปรงที่มีชายกระโปรงค่อนข้างกว้าง    เวลาที่แต่งกายลักษณะนี้ สาวๆทั้งหลายมักสวมหมวกตาข่ายผ้าไหมซึ่งเป็นผลจากการรับอิทธิพลการแต่งกายของชนเผ่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ

 image126

隋彩绘仆侍陶俑群,梳平云髻,小袖衫,高胸裙,河南博物院藏

image127

陕西西安出土隋彩绘女俑,小袖衫,高腰裙

 image128

额黄妆、穿裙的妇女

 image129

image130

穿襦裙、半臂、披帛的宫廷侍女(陕西乾县李山蕙墓壁画)

 

唐圆领衫

、袍

圆领衫、袍是在古代深衣的基础上发展而来的,是唐代男子主要的服装形式。它的前后身采用直裾,在领子、袖口、衣裾边缘部分都加贴边。在前后襟的下边,常各用一幅布横向拼接,腰部用革带紧束,上戴幞头,下穿长靴。圆领衫、袍的衣袖分窄袖和宽袖两种,窄袖的便于活动,宽袖的则可以表现出潇洒、华贵的风度。

เสื้อและชุดคลุมคอกลม

เสื้อและชุดคลุมคอกลมพัฒนามาจากชุดเซินอี(ชุดพิธีการแบบวัฒนธรรมฮั่น)ในสมัยโบราณและเป็นเสื้อผ้ารูปแบบหลักของผู้ชายในสมัยถังด้านหน้าและด้านหลังต่อกันเป็นชิ้นเดียว  บริเวณคอเสื้อ แขนเสื้อ ต่างมีการขลิบริม  ด้านล่างของคอเสื้อด้านหน้า  มักปะด้วยแถบผ้าตามแนวนอน  คาดเอวให้แน่นด้วยเข็มขัด  บนศีรษะสวมหมวกฝู  สวมรองเท้าหุ้มข้อ     ชุดคอกลมแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือแขนกว้างและแขนแคบ    แขนแบบแคบเหมาะสำหรับเวลา
ต้องการความคล่องแคล่ว  แขนกว้างนั้นแสดงถึงความทันสมัยและความหรูหรา

image131

唐幞头
起初,人们用一块布从后脑向前把发髻捆住,并使巾布的两角在脑后打结,自然下垂如带状;另两角回到头顶打成结子作装饰,这就是初期的幞头。后来,人们又在巾布的四角上接上带子,使其自然飘垂,装饰性就更强了;再后来,人们甚至将带子裁成或圆或阔的各种形状,并用丝弦或铜丝、铁丝作骨,放在带子里,这就变成了可以任意造型的翘脚幞头。

หมวกโพกหัว

แรกเริ่มเดิมทีนั้น  ผู้คนใช้ผืนผ้าพันหัวจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อให้ผมอยู่ทรง  และปล่อยชายผ้าที่ขมวดปมทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง  ปล่อยให้ห้อยอย่างอิสระ      ส่วนปลายผ้าอีกสองฝั่งก็ขมวดขึ้นไปบนหัวแล้วมัดไว้ข้างบนนั้น  ซึ่งเป็นลักษณะของหมวกฝูในระยะเริ่มแรก     ภายหลังก็ได้เพิ่มสายผ้าเข้าไปแล้วมัด จากนั้นปล่อยให้ห้อยไหวพลิ้วอยู่ด้านหลัง   ซึ่งมีลักษณะของการตกแต่งอย่างชัดเจน   ต่อมาก็ตกแต่งหางหมวกฝูเป็นทรงหลากหลายรูปแบบ กลมบ้างกว้างบ้าง ทั้งยังใช้สายลวดหรือสายทองแดงทำเป็นโครงที่ปลายห้อยนั้นซึ่งทำให้รูปแบบหางของหมวกฝูเปลี่ยนไปต่างๆนาๆตามแต่ผู้ใช้

 image132

纱罗幞头图

(根据传世绘画及出土陶俑复原绘制)

 image134

裹幞头、穿圆领袍衫的帝王及官吏

(阎立本《步辇图》)

image135

裹幞头、穿圆领袍衫、乌皮靴的官吏(陕西乾县李重润墓壁画)

冕冠衣裳

唐代皇帝的服饰,在继承前代冕冠、冕服的基础上,又有了更加长足的发展,服饰形态更加丰富、完备,在服饰的细节处理上也更加精细入微。

มาลามงกุฎและชุดพิธี

ฉลองพระองค์ของพระจักรพรรดิในราชวงศ์สุยคือ เหมี่ยนกวาน(มาลามงกุฎ)ที่ได้สืบมาจากราชวงศ์ก่อนๆและลักษณะพื้นฐานของฉลองพระองค์ที่พัฒนาให้ยาวลงมาถึงพระบาทและลักษณะมีความสมบูรณ์ ครบถ้วน  ทั้งยังมีรายละเอียดที่หลากหลายมากขึ้น

 image136

戴冕冠、穿晚服的皇帝及戴龙冠、穿礼服的侍臣

(阎立本《历代帝王图》)

 image137

穿便服的帝王

(阎立本《历代帝王图》局部)

唐襦裙

唐代的襦是一种衣身狭窄短小的夹衣或棉衣,领口和袖口有金彩纹绘或刺绣工艺,有的还镶有绫锦,这些装饰使服装的效果更加华美富丽。唐代的裙式大多高腰或束胸,款式贴臀,宽摆齐地,是下摆呈圆弧形的多褶斜裙。

ชุดเสื้อและกระโปรงเกาะอกสมัยถัง (กระโปรงหยรู)

เสื้อหยรูสมัยถังเป็นเสื้อผ้าเจี่ยหรือเสื้อผ้าฝ้ายที่มีขนาดสั้นและไม่ยาวมาก   บริเวณคอเสื้อและปลายแขนเสื้อตกแต่งด้วยลายดิ้นทองหรือประดับด้วยงานปัก  หรือปักลายด้วยผ้าตาดสีแดง  ซึ่งการประดับตกแต่งเช่นนี้ทำให้เครื่องแต่งกายมีความหรูหราฟู่ฟ่า  และกระโปรงยุคถังนี้ส่วนมากเอวสูงหรือรัดอก  รัดสะโพก  และชายกระโปรงกว้างยาวลากพื้น  และมีลักษณะเป็นกระโปรงจีบทรงกระบอก

 image138

 穿襦裙或袍衫的贵妇及侍女(张萱《虢国夫人游春图》局部)

image138

穿襦裙、披帛的妇女(顾闳中《韩熙载夜宴图》局部)

 image140

穿襦裙及半臂的初唐宫女(陕西乾县唐永泰公主墓壁画)

 image141

穿大袖纱罗衫、长裙、披帛的贵妇

(周昉《簪花仕女图》局部)

帔帛

帔帛是一种长围巾,多以丝绸裁制,上面印画纹样,一般披在女子肩背上,花色和披戴方式很多。有的将其两端垂在手臂旁,一头垂得长些,一头垂得短些;有的将其右边一头束在裙子系带上,左边一头由前胸绕过肩背,搭着左臂下垂,还有的将其两端棒在胸前……帔帛会随女子行动时而飘舞,非常优美。

ผ้าคลุมไหล่ผ้าไหม (เพ่ยโป๋)

เพ่ยโป๋ก็คือผ้าพันคอยาว ส่วนมากทำมาจากผ้าไหมพิมพ์ลาย  ใช้สวมคลุมไหล่ผู้หญิง  รูปแบบที่เต็มไปด้วยลวดลายและมันเงาสะท้อนแสงนั้นมีให้เห็นมากที่สุด  ซึ่งใช้พาดไหล่ปล่อยให้ชายทั้งสองห้อยลงมาที่แขนให้แถบหนึ่งยาว แถบหนึ่งสั้น   บ้างก็นำปลายทางขวาผูกไว้กับสายรัดเอว ส่วนอีกปลายหนึ่งก็คลุมอ้อมหน้าอกผ่านไหล่ไปด้านหลังให้ห้อยพลิ้วอยู่ด้านหลัง  บ้างก็นำปลายทั้งสองข้างพันไว้ที่หน้าอก  ผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมไหล่ เวลากรีดกายย่างก้าวนั้น ปลายผ้าไหมก็จะสะบัดพลิ้วตามแรงลม  ดูงดงามยิ่งนัก

 image142

敦煌莫高窟375窟初唐供养人,

高腰宽摆长裙,肩披帔帛

image143

穿薄纱大袖衫,高腰裙,披帛,高髻簪花的仕女

 

大袖衫

大袖衫是盛唐时候的女装,因为它的衣袖往往宽于1.3米,所以这种衣服被称为“大袖衫”。大袖衫一般用轻薄透明的纱料制成,上面还有精美的图案。女子穿上它,能显露出华贵而飘逸的气质。

เสื้อแขนใหญ่

ต้าซิ่วซาน เป็นเครื่องแต่งกายของผู้หญิงในสมัยถัง เนื่องจากเป็นเสื้อที่แขนมักกว้างกว่า1.3เมตร จึงถูกเรียกว่า ‘ต้าซิ่วซาน’ (เสื้อแขนใหญ่) ต้าซิ่วซานตัดเย็บมาจากผ้าเนื้อบางโปร่งแสงซึ่งประดับรูปภาพที่งดงาม   ผู้หญิงสวมใส่ต้าซิ่วซานเพื่อที่จะแสดงออกถึงความสง่างามและแสดงความมีฐานะของตน

 穿大袖透明衫子的唐image144
代宫女(唐周昉《簪花仕女图》局部)

 image145

 

羃篱与帷帽

起初,羃篱与帷帽都是为了遮蔽风沙的。后来,它们成了女子出行时遮蔽面容,不让路人窥视的帽子。羃篱是用透纱罗全幅缀于帽檐上,并使之下垂障蔽全身;而帷帽则是在四缘悬挂一圈网子,下垂至颈,网帘上还常加饰珠翠。

หมวกม่านและหมวกม่านตาข่าย

ในระยะแรก  หมวกม่านตาข่ายและหมวกม่านใช้สำหรับป้องกันฝุ่นหรือเศษทราย  ภายหลังได้กลายเป็นที่ปิดบังใบหน้าที่สาวๆนิยมใช้  คือใช้เป็นม่านบังไม่ให้คนที่ผ่านไปผ่านมามองลอดเข้ามาเห็นได้   หมวกม่านมี่หลีใช้ผ้าซาหลัวโปร่งแสงห้อยลงมาจากจากปีกหมวก  อาจจะปล่อยยาวคลุมทั้งร่างกาย  หมวกเหวยเม่าคือหมวกที่ใช้ตาข่ายล้อมทุกด้านจากปีกหมวก  และห้อยลงมาถึงคอ  มักประดับลูกปัดไว้ที่ตาข่ายนี้ด้วย

image146

戴帷帽、穿襦裙的妇女

(唐三彩俑,传世实物,原件现藏上海博物馆)

image147

戴搭耳蕃帽的唐代妇女

(新疆吐鲁番阿斯塔那唐张礼臣墓出土屏风绢画)

 image148image149

戴面幕的唐代妇女

(日本东京国立博物馆藏唐人)

《树下人物图》

 image150

 

回(huí)鹘(hú)装

回鹘是中国西北地区的少数民族,回鹘女子的服装对唐代汉族女子的服装影响较大。回鹘女装的基本款是连衣长裙,翻折领、窄袖,衣身比较宽松,腰际束带。一般在翻领和袖口上都有凤衔折枝花的纹饰。女子在穿这种服装时要梳椎状的回鹘髻,上饰珠玉,簪钗双插,戴金凤冠,穿笏头履。

 

เสื้อผ้าชาวอุยกูร์

อุยกูร์คือชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เครื่องแต่งกายของสตรีชาวอุยกูร์นั้นส่งผลกระทบต่อเครื่องแต่งกายของสตรีชาวฮั่นในยุคราชวงศ์ถังเป็นอย่างมาก      พื้นฐานของเสื้อผ้าผู้หญิงชาวอุยกูร์จะเป็นแบบกระโปรงและเสื้อติดกันเป็นชุดเดียว   ปกคอพับเป็นปก  แขนเสื้อเล็ก  ส่วนลำตัวค่อนข้างหลวม และรัดสายรัดที่เอวโดยทั่วไปบนปกเสื้อและแขนเสื้อมักจะประดับด้วยลายหงส์อัคนีและบุบผาชาติ  ผู้หญิงที่สวมเสื้อลักษณะนี้มักจะต้องทำผมทรงอุยกูร์  ประดับดอกไม้หยก  ปิ่นคู่  สวมมงกุฎหงส์  และสวมรองเท้าหัวคทา

 image151

戴凤纹回鹘冠的妇女

(敦煌榆林窟16窟壁画,张大千摹)

 image152

梳回鹘髻、戴金凤冠、穿回鹘装的晚唐贵妇

(甘肃安西榆林窟壁画,张大千临摹)

 

การแต่งหน้าของสาวชาวถังมีลำดับดังนี้คือ 

1.ทารองพื้น  2.ปัดแก้มแดง  3.เขียนคิ้ว  4.ทาลิปสติก  5.แต้มจุดลักยิ้ม 6.  ติดฮวาเตี้ยน

และใช้วัสดุสีดำสำหรับเขียนคิ้วให้ดูเข้ม สำหรับคิ้วที่บางละเอียดและยาว เรียกว่า ไต้เหมย
คิ้วที่หนาและใหญ่ เรียกเอ๋อเหมยซึ่งบางครั้งเรียกว่า กว่างเหมย

image153

image154

饰桃花妆的妇女

(唐人《弈棋仕女图》局部)

image155

经过妆点的妇女唇式

(新疆吐鲁番唐墓出土《弈棋仕女图》局部)

花钿

据说南北朝时有一位公主,一天在宫殿的屋檐下睡着了,一朵艳丽的梅花缓缓飘下,正落在她白皙的额头上,这眉间的梅花几天拂之不去,愈发显出公主的千娇百媚。一时间,宫女们争相仿效,纷纷用颜色在两眉间染绘出各种图案,甚至用金属片贴在眉间作装饰,这后来就成为盛行在唐代的化妆方式之一——花钿。

ดอกไม้โลหะ (ที่ใช้แปะหรือวาดบนใบหน้า)

เล่ากันว่าในสมัยยุคราชวงศ์เหนือใต้ มีองค์หญิงอยู่องค์หนึ่ง  วันหนึ่งก็ได้แอบเข้านอนหลับไปในห้องใต้หลังคาพระราชวัง   กลีบดอกเหมยสีสดที่ถูกลมตีให้ล่องลอยอยู่ในอากาศก็ได้หล่นลงมาที่หน้าผากนวลๆของนาง  หลายวันผ่านไป กลีบดอกเหมยที่ติดอยู่กลางหน้าผากนั้นก็ไม่ยอมลอกหลุดลอกออกไปเสีย แต่นั่นก็กลับกลายเป็นว่าเป็นการเพิ่มความงามให้องค์หญิง  ไม่นานจากนั้น บรรดาสาวๆในพระราชวังก็ได้ทำตามองค์หญิงโดยการนำสีมาวาดเป็นรูปหรือลายต่างๆลงไปที่หว่างคิ้ว  และมีบางคนก็ถึงขนาดกับนำแผ่นทองมาติดที่หว่างคิ้วกันเลยทีเดียว  ซึ่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในแฟชั่นการแต่งหน้าที่นิยมของบรรดาสาวๆทั้งหลายในยุคถัง

image156 image157

穿襦裙及联珠纹锦半臂的唐代妇女

(新疆吐鲁番阿斯塔那唐墓出土泥头木身著衣俑)

 

 

image158

发髻

唐代女子的发髻名目众多,有半翻髻、惊鹄髻、双环望仙髻、抛家髻、同心髻、倭堕髻、回鹘髻等。这些发髻最主要的特点就是崇尚高大,流行使用假发或假髻来梳妆。与此相适应,发髻上的装饰也愈加丰富,银钗、牙梳、金玉珠翠花枝、鸾凤步摇等精致秀美、光彩炫目。

 

ทรงผม

ทรงผมของสตรีชาวถังมีมากมายหลากหลาย  เช่น  ทรงมวยครึ่งหัว ทรงจิงกู่(ผมสองช่อคล้ายโบ)  ทรงสองห่วง  ทรงยอดเอียง  ทรงใจเดียว  ทรงวอตว้อ และทรงอุยกูร์  ลักษณะเด่นของทรงผมเช่นนี้คือมีขนาดสูงกว้างใหญ่  ขณะจัดแต่งทรงผมอาจใช้ผมปลอมหรือผมปลอมที่จัดทรงแล้วมาประดับเพิ่ม    และนอกจากนี้เครื่องประดับบนผมก็ยังมีมากเหลือคณาเช่นกัน  เช่น  ปิ่นเงิน  หวีงา  ลูกปัดเงินทองหรือดอกไม้ขนนกกระเต็น  ปิ่นหงส์คู่ประกอบตุ้งติ้ง  และเครื่องประดับอื่นๆที่ละเอียดงดงาม สุกใสเป็นประกาย

 image159

梳双鬟望仙髻的妇女

(陕西西安羊头镇唐李爽墓出土壁画)

 image160

梳三角髻的妇女(河南洛阳涧西谷水第六号唐墓出土三彩俑)

image161

梳双垂髻的妇女

(新疆吐鲁番唐墓出土《弈棋仕女图》局部)

image162
梳回鹘髻的回鹘族妇女(甘肃安西榆林窟五代壁画,张大千摹)

 image163

 

蹀躞带是隋唐时期男子通常佩戴的东西。蹀躞是革带上用来挂物的小带子;七事是指刀子、火石、针筒等七种日常要用的物件。蹀躞带上装饰的质料和数目的多少,表示服用者身份的高低。

เข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์

เข็มขัดเข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์เป็นเข็มขัดที่บุรษสมัยสุยและถังคาดเอวไว้ ซึ่งมักแขวนสิ่งของเล็กๆน้อยๆไว้ด้วย   เข็มขัดชนิดนี้คือเข็มขัดที่มีแถบหนังยื่นออกมาใช่ห้อยสิ่งของเล็กๆ เช่นมีด  หินไฟ(ใช้กะเทาะจุดไฟ)  กระบอกเข็ม และของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆรวม ๗ สิ่ง  วัตถุประดับที่ประดับอยู่บนเข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์ จะมากจะน้อยนั้น ต่างก็เป็นการแสดงฐานะของผู้สวมใส่

 image164

image165蹀躞带穿戴展示图

(根据出土陶俑、石刻、壁画复原绘制)

image166

蹀躞带饰四种
(吉林和龙八家子渤海遗址出土)

 

唐代的胡服,实际上是指西域地区的少数民族服饰和印度、波斯等外国服饰。比较常见的胡服形式是翻领窄袖袍、条纹小口裤、透空软锦靴和锦绣浑脱帽,有的还佩有蹀躞带。

เสื้อผ้าชาวต่างชาติ  (ชาวฮั่นเรียกชนชาติทางตะวันตกที่ไม่ใช่ฮั่นว่าหู)

เสื้อผ้าของชาวหูในสมัยถัง  ก็คือเครื่องแต่งกายของชนกลุ่มน้อยทางภาคตะวันตก  อินเดีย เปอร์เซีย และประเทศอื่นๆ  สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยๆจากเสื้อผ้าชาวหูคือปกเสื้อพับ แขนเสื้อเล็ก  กางเกงขาลีบ  รองเท้านิ่มที่ระบายอากาศได้ดี และหมวกหุนทวอที่งดงาม  และมีบ้างที่สวมเข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์

image167

梳髻、穿翻领胡服的妇女
(彩绘陶俑,原件现藏故宫博物院)

image168

戴胡帽、穿胡服、

佩蹀躞带的人物

(陕西西安出土三彩俑)

image169

戴胡帽、佩蹀躞带的妇女(陕西西安出土石刻摹本)

 

 

唐代舞蹈服

唐代舞蹈分为两种截然不同的风格,一种叫“软舞”,也称“文舞”,属于汉族的舞蹈,舞姿宛转、舒展,余韵悠长,舞服宽松、飘逸,大袖较多;另一种叫“健舞”,也称“武舞”,属于胡舞的范畴,舞姿威武、激越,旋转腾飞,舞服与胡服同类,袖多紧瘦。

 

เครื่องแต่งกายทางนาฏศิลป์

นาฏศิลป์ในสมัยถังแบ่งเป็น ๒ แบบที่แตกต่างกัน  แบบแรกคือ  ฟ้อนนุ่ม  (หรวนอู่ หรือ เหวินอู่)  ซึ่งเป็นการแสดงของชาวฮั่น  ท่าทางอ่อนโยน  เหยียดแขนและขาออกไปเนิบๆ  ค่อยๆเคลื่อนไหว กรีดกายย่างเยื้องช้าๆ  เสื้อผ้าที่สวมก็หลวมบางเบา สวยหรูสง่างาม ซึ่งมักเป็นเสื้อแขนกว้าง     อีกประเภทหนึ่งก็คือ  รำแกร่ง  เป็นการแสดงในกลุ่มของชาวหู    ท่าทางขึงขัง  คึกคะนอง  หมุนไปหมุนมา เสื้อผ้าที่สวมมีลักษณะคล้ายกับชุดหู  คือ เป็นชุดรัดรูป แขนเล็ก

image170

著帔肩的唐代舞姬
(陕西西安唐墓出土陶俑)

 image171

唐代军服

唐代的军服是“将帅用袍,军士用袄”。在将帅的袍上,要绣上狮虎的图案,以显示其勇猛威武。唐代的铠甲有13种之多,甲片的形式有细鳞、山文、锁子等,材质则包括金属、皮革和绢等。可以说从样式到工艺,唐代的军服都比前代有了很大的进步。

เครื่องแต่งกายในกองทัพ

เครื่องแต่งกายในกองทัพสมัยถังก็คือ  “นายพลสวมผาว  ทหารเลวสวมอ่าว”     บนเครื่องแต่งกายของนายพลจะปักลายสิงโตและเสือ  เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญเกรียงไกร  ส่วนเสื้อเกราะยุคถังนี้ก็มีมากถึง ๑๓ แบบด้วยกัน  การเรียงเกล็ดของแผ่นเกราะก็เช่น  แบบเกล็ดเล็ก แบบภูเขา  แบบล็อก    วัสดุที่ใช้นั้นก็มี แผ่นโลหะ   แผ่นหนังและผ้าไหม  อาจจะพูดได้ว่าตั้งแต่รูปแบบและเทคนิคที่ใช้ประดิษฐ์เสื้อเกราะสมัยถังนี้มีการพัฒนาที่รุดหน้ากว่าอดีตมากนัก

image172

穿胄甲的初唐武将

(陕西礼泉郑仁泰墓出土加彩陶俑)

image173

穿绢布甲的唐代武士(新疆吐鲁番阿斯塔那出土彩绘木俑)

image174

初唐胄甲(甘肃敦煌莫高窟194窟彩塑)

 

纹样

隋唐时期流行的装饰纹样造型饱满,色彩艳丽,主纹突出,地部疏朗,对称构图较多。其中比较著名的纹样有宝相花纹、联珠团窠纹、瑞锦纹等。宝相花纹是由盛开的花朵、花苞、花瓣和叶子等素材按放射对称的方式组合而成的,雍容华美,久负盛名。

ลวดลาย

ลักษณะของลวดลายที่ได้รับความนิยมช่วงสมัยสุยคือ มีลักษณะกลม  สีสันสดใส  มีแกนลายเด่น   สว่างสดใส  ลายแบบกลมๆค่อนข้างมาก     หนึ่งในลายที่ได้รับนิยมก็เช่น  ลายกรอบล้อมบุบผา  ลายรังมุก  ลายลุ่ยจิ่น เป็นต้น   ลายกรอบล้อมบุบผา ก็คือดอกไม้บาน ดอกตูม กลีบดอก และใบที่มีกรอบล้อมรอบซึ่งจัดวางอย่างสมมาตรมีความเป็นเอกภาพ  สง่าสวยงาม  และเป็นที่รู้จักของคนมาช้านาน

image175

新疆吐鲁番阿斯塔那唐墓出土联珠大鹿纹锦纹样

image176

联珠狩猎纹锦

(传世实物,原件现在日本奈良法隆寺)

 

 

error: Content is protected !!